สถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
สถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ
โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
ภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋งกลายเป็น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสุดแสนโรแมนติก ติดอันดับต้นของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกบาง เป็นภาพที่สร้างความประทับ ยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนรางหายไปก็ยังคงความงดงาม
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม ฤดูหนาว

ที่มา:https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%87+2+(%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%87)&rlz=1C1GCEA_enTH808TH808&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwifwf_LyfrcAhWGbn0KHZmtBLgQ_AUICygC&biw=1532&bih=726&dpr=1.25#imgdii=MuVfP-hkOD28gM:&imgrc=f-ukLI0sPEproM:
รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว
ภาพทิวสนสองใบและสนสามใบเรียงรายตลอดแนวอ่างเก็บน้ำอันกว้างใหญ่กลางอ้อมกอดของขุนเขาเขียวชอุ่มยามเช้า คือมนต์เสน่ห์ของปางอุ๋งที่นำพานักเดินทางเข้ามาเยือนที่นี่อยู่ตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่มีสายหมอกขาวลอยเหนือผืนน้ำ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้กับปางอุ๋ง อย่างไรก็ตาม แต่ก่อนบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา และมีการบุกรุกทำลายป่าอยู่เสมอ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรบริเวณนั้น พร้อมกับพัฒนาความเป็นอยู่ของพวกเขา ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน ปัจจุบันปางอุ๋งได้กลายมาเป็นแหล่งปลูกพืชที่น่าสนใจหลายชนิด เช่น อะโวคาโด พลับ สาลี่ บ๊วย อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยีย พวงแสด มีการปลูกสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ในด้านอาหารและแพทย์แผนไทย ซึ่งกลมกลืนกับพื้นที่สูงและมีอากาศหนาวเย็น และสุดท้ายคือบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์ประจำถิ่นซึ่งกำลังจะสูญพันธ์อย่างเขียดแลว นอกจากกิจกรรมชมธรรมชาติยามเช้าของปางอุ๋งแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมล่องแพชมทัศนียภาพในทะเลสาบที่มีหงส์ดำและหงส์ขาวอย่างละ 1 คู่ ซึ่งได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาเติมความงดงามให้ปางอุ๋งติดตรึงอยู่ในหัวใจ นักท่องเที่ยวไปตราบนานแสนนาน
ทิปส์ท่องเที่ยว
• ปางอุ๋งเปิดให้เข้าพื้นที่ทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น.
• นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรมต้องลงทะเบียนผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถนนขุนลุมประพาส ตำบลจองคำ อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0 5361 1244, 08 5618 3303 โทรสาร 0 5361 1649 จึงจะสามารถนำรถเข้าปางอุ๋งได้ ถึงแม้จะมีบัตรค้างแรมแต่ก็นำรถเข้าออกพื้นที่ได้ระหว่างเวลา 09.00-18.00 น. เท่านั้น ที่พักบนปางอุ๋ง จะมีเครื่องปั่นกระแสไฟให้ใช้เฉพาะช่วงเวลา 18.00-22.00 น. เท่านั้น นักท่องเที่ยวควรเตรียมไฟฉายและแบตเตอรีสำรองให้เพียงพอต่อการใช้งาน
• นักท่องเที่ยวที่ไม่พักค้างแรม ไม่ต้องรับบัตรผ่าน แต่ไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ และสามารถจอดรถขึ้นรถโดยสารได้ที่บ้านนาป่าแปก จากบ้านนาป่าแปกไปปางอุ๋ง รวมระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที มีบริการรถสองแถวทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.
• การจองที่พักสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0 5361 1244 โทรสาร 0 5361 1649
เดินทางอย่างไร
โดยรถยนต์
จากเมืองแม่ฮ่องสอนใช้เส้นทางสายแม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า ประมาณ 10 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเส้นทางเดียวกับไปภูโคลน ผ่านน้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง เดินทางขึ้นไปเรื่อย ๆ สังเกตทางแยกซ้ายมือจะมีป้ายเล็ก ๆ เขียนว่าไป "บ้านรวมไทย" ให้เลี้ยวซ้ายไป ผ่านหมู่บ้านห้วยมะเขือส้มแล้วถึงบ้านรวมไทย หรือปางอุ๋ง เส้นทางนี้คดโค้งขึ้นเขาชันและถนนแคบ บางครั้งมีหมอกเป็นอุปสรรค จึงควรเดินทางในช่วงกลางวัน
โดยรถประจำทาง
หากเดินทางโดยรถประจำทาง ขึ้นรถที่หน้าตลาดเมืองแม่ฮ่องสอน มีคิวรถไปปางอุ๋ง เวลา 09.00 น. และ 15.00 น. และออกจากปางอุ๋ง เวลา 05.30 น. และ 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น